สาระประมวล
ความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและให้เข้าใจถึงวิธีการทำสงครามพิเศษ
รูปแบบของสงครามพิเศษ ตลอดจนแนวความคิดในการป้องกันและต่อต้านการบ่อนทำลาย และให้เข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการ/ขั้นตอนในการป้องกันและจัดการกับการก่อการร้ายสากลในสถานการณ์ต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้น
ขอบเขตการศึกษา บรรยายถึง
๑. หลักพื้นฐานของการสงครามนอกแบบ
๒. การรบแบบกองโจร รวมทั้งสถานภาพทางกฎหมายของกองโจร
๓. การบ่อนทำลาย
๔. การเล็ดลอดและหลบหนี
๕. ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยรบตามแบบกับหน่วยสงครามนอกแบบ
๖. แนวความคิดในการใช้สงครามนอกแบบของ
ทร.
และการใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการรบตามแบบ
๗. สาเหตุของการก่อการร้ายสากล
๘. กลุ่ม/องค์กรที่ปฏิบัติการ
และวิธีดำเนินการ
๙. นโยบายในการป้องกันและจัดการ
รวมทั้งข้อพิจารณาด้านกฎหมาย
๑๐. ความรับผิดชอบและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานพลเรือนและทหาร
๑๑. การจัดกำลังและเครื่องมือเครื่องใช้ของหน่วยทหารในการปราบปราม
สาระคู่มือ
๑. ความสำคัญ
สงครามพิเศษเป็นการต่อสู้ที่กว้างขวาง มีลักษณะเป็นการปฏิบัติการลับ
การปฏิบัติการปกปิดหรือการปฏิบัติการโดยเปิดเผย
โดยสามารถอำนวยการปฏิบัติต่อกำลังกองโจรในการดำเนินงานเพื่อต่อต้านฝ่ายตรงข้าม
หรือการปฏิบัติของหน่วยกำลังรบพิเศษในการหาข่าว ตลอดจนการปฏิบัติทางยุทธวิธีอื่นๆ
และการก่อการร้ายเป็นวิธีการที่ผู้ก่อการนิยมใช้หรือคุกคามว่าจะใช้กำลังหรือความรุนแรงอย่างผิดกฎหมายต่อบุคคล
หรือทรัพย์สิน เพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ทางการเมือง ศาสนาหรืออุดมการณ์
๒. ความมุ่งหมาย
เพื่อศึกษาและให้เข้าใจถึงการสงครามพิเศษ
และรูปแบบต่างๆ ของสงครามพิเศษ โดยเฉพาะที่มีผลกระทบและเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย
ศึกษาและทำความเข้าใจถึงสาเหตุ
วิธีการและขั้นตอนในการป้องกันและจัดการกับการก่อการร้ายสากลในสถานการณ์ต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งพิจารณาให้การสนับสนุนการปฏิบัติการกับหน่วยงานของ ทร. หรือหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ที่มีหน้าที่จัดการโดยตรงกับการก่อการร้ายสากล
๓. สาระสังเขปการศึกษา
สงครามพิเศษ
คือการปฏิบัติการทางทหารและกึ่งทหารในดินแดนที่ข้าศึกยึดครองอยู่หรือพื้นที่ที่ข้าศึกมีอิทธิพล
มุ่งกระทำต่อเป้าหมายทางทหาร การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา
โดยใช้กำลังหน่วยรบพิเศษล้วนๆ หรือปฏิบัติร่วมกับกำลังประชาชนในท้องถิ่น
รวมทั้งปฏิบัติการร่วมกับกำลังพันธมิตรในดินแดนภายนอกประเทศ
สงครามพิเศษเป็นการต่อสู้ที่กว้างขวาง
มีลักษณะเป็นการปฏิบัติการลับ การปฏิบัติการปกปิดรวมทั้งการปฏิบัติการโดยเปิดเผย รูปแบบของสงครามพิเศษประกอบด้วย
สงครามกองโจร ได้แก่ ปฏิบัติการโดยหน่วยซึ่งกำลังส่วนใหญ่จัดจากประชาชน
พลเรือนในท้องถิ่นทำการรบแบบทหาร หรือกึ่งทหารในดินแดนข้าศึก
หรือที่ข้าศึกยึดครองอยู่ ส่วนการเล็ดลอดหลบหนีก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ได้แก่
วิธีการและการปฏิบัติการที่จะช่วยให้ทหารฝ่ายเรา
หรือตัวบุคคลที่ได้เลือกหรือกำหนดตัวไว้แล้ว
สามารถทำให้ตัวหลุดพ้นจากดินแดนของข้าศึก สำหรับรูปแบบที่สามคือ การบ่อนทำลาย
ได้แก่ การกระทำใดๆ ที่มุ่งหมายทำให้กำลังทหาร เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา
ขวัญและกำลังทางการเมืองของประเทศหนึ่ง ต้องทรุดโทรมลงและอาจถึงขั้นต้องถูกทำลายไปด้วยวิธีการเปลี่ยนรัฐบาล
การก่อการร้ายสากลเป็นการปฏิบัติการของกลุ่มบุคคลที่มีเป้าหมายเฉพาะเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ของตนเอง
โดยมิได้พิจารณาถึงความถูกต้อง กฎหมายหรือแม้แต่คุณธรรมของสังคมส่วนรวม
บางครั้งกลุ่มผู้ก่อการร้ายอาจได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างชาติ
หรืออาจเป็นกลุ่มคนต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรของชาติอื่น
แต่เป้าหมายของการก่อการร้ายอยู่ในประเทศและมีผลเกี่ยวเนื่องกันระหว่างสองประเทศขึ้นไป
ซึ่งอาจเกิดภายในหรือภายนอกประเทศก็ได้
เมื่อมีเหตุการณ์การก่อการร้ายสากลเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นจะเป็นผู้ทราบก่อนและเข้าดำเนินการต่อเหตุการณ์ในขั้นต้น
เมื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นการก่อการร้ายสากลแน่ชัดแล้ว
จึงแจ้งข่าวไปที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล สภาความมั่นคงแห่งชาติ
จากนั้นจึงแจ้งให้คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายทราบ
โดยปกติแล้วคณะกรรมการดังกล่าวจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับองค์กรในระดับปฏิบัติการ ได้แก่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของเหล่าทัพ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
จะเข้าปฏิบัติการเมื่อได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการดังกล่าวต่อไป
๔. วิธีดำเนินการศึกษา
๔.๑ บรรยายในห้องเรียน ๓ ชั่วโมง
๕. ประเด็นคำถามสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาที่ศึกษา
๖. เอกสารประกอบการศึกษา
๖.๑ เอกสารของผู้บรรยาย
หรือตามที่ผู้บรรยายกำหนด
๖.๒ ภูมินทร์ กลกิจกำจร, น.อ.,
หลักพื้นฐานของสงครามนอกแบบ, ๒๕๒๖
๖.๓ ภูมินทร์ กลกิจกำจร, น.อ.,
สงครามนอกแบบ, ๒๕๒๗
๖.๔ ไพโรจน์ ดวงนภา, พ.อ., สงครามนอกแบบ, ๒๕๔๑
๖.๕ เอกสาร
การศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบต่อกองทัพเรือจากการก่อการร้ายในสหรัฐฯ เมื่อ ๑๑
ก.ย.๔๔
๗. เอกสารอ่านประกอบเพิ่มเติม