สาระประมวล
ความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและให้เข้าใจถึงขีดความสามารถของกำลังรบหลักของประเทศ
หลักนิยมในการรบของแต่ละเหล่าทัพ แนวทางและวิธีการปฏิบัติการรบร่วมกัน (Joint Operations) ตลอดจนหลักการ
ความสัมพันธ์ ขั้นตอนของการจัดทำเอกสารสั่งการในการยุทธร่วม/ผสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้รับบทเรียนจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ชาติต่างๆ
ได้หันมาใช้นโยบายการรบร่วมกันมากขึ้น เพื่อให้เกิดความประหยัดและมีประสิทธิภาพ
สามารถใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมกัน หรือเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีความเข้าใจกันในคำสั่งและการปฏิบัติการร่วมกัน
เพื่อให้นำแนวทางไปใช้ในการวางแผนหรือปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเหล่าทัพ
และการปฏิบัติการในความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต
ขอบเขตการศึกษา บรรยายถึง
๑. โครงสร้างการจัดหน่วยของกองบัญชาการกองทัพไทย
๒. นโยบาย บก.กองทัพไทย กับการควบคุมสั่งการในการทำการรบ
๓. แนวความคิดของ บก.กองทัพไทย ในฐานะ Joint Headquarters ในด้านการรบร่วม
๔. หลักนิยมในการรบร่วมของกองทัพไทย
๕. การปฏิบัติการยุทธร่วมและยุทธผสม ความสัมพันธ์ในการบังคับบัญชา การจัด
และการวางแผนในการยุทธนั้นๆ
๖. ขั้นตอนของกรรมวิธีในการทำแผนหรือคำสั่งระดับหน่วยบัญชาการรวม
และหน่วยกำลังรบเฉพาะกิจร่วมขนาดใหญ่ บรรยายแบบเอกสารหลักในการวางแผนร่วม
สาระคู่มือ
๑. ความสำคัญ
การปฏิบัติการรบของกำลังแต่ละเหล่าทัพ
ในอดีตที่ผ่านมาได้ใช้การปฏิบัติการในลักษณะแยกกันทำการรบตามลำพังเป็นส่วนใหญ่
แต่ภายหลังสงครามอ่าวเปอร์เซียได้สิ้นสุดลง
นักการทหารได้เกิดความคิดว่าหากได้สนธิขีดความสามารถของแต่ละเหล่าทัพเข้าด้วยกันและให้ใช้ขีดความสามารถเฉพาะเหล่าสนับสนุนการปฏิบัติซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด
โดยมุ่งต่อจุดมุ่งหมายเดียวกันแล้ว จะทำให้สามารถบรรลุภารกิจได้โดยง่ายกว่าการแยกกันปฏิบัติของแต่ละเหล่าทัพ
การปฏิบัติการทางทหารในปัจจุบันและในอนาคตจึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างอิสระในการปฏิบัติของเหล่าทัพของตนได้อีกต่อไป
จากผลของสงการทำสงครามหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณจากการประสานการปฏิบัติร่วมกันของกำลังต่างเหล่าทัพเข้าด้วยกัน
ความรู้และความเข้าใจในการวางแผนร่วม ในการปฏิบัติการระหว่างเหล่าทัพ
จะนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิบัติการร่วมกัน
แนวความคิดดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการปฏิบัติการร่วม (Joint Operations) ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนร่วมในการใช้กำลังของทั้ง
๓
เหล่าทัพให้สามารถรวมพลังความสามารถในอันที่จะเกื้อกูลและชดเชยข้อจำกัดซึ่งกันและกันได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน
๒. ความมุ่งหมาย
เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจถึงหลักนิยมการปฏิบัติการร่วม
และกรรมวิธีการวางแผนร่วม โดยจะศึกษาถึงโครงสร้าง นโยบายและแนวความคิดของ
กองบัญชาการกองทัพไทยในการปฏิบัติการร่วม หลักนิยมในการปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทย
การปฏิบัติการร่วม/ผสม การปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพ
และขั้นตอนของกรรมวิธีในการวางแผนร่วม
๓. สาระสังเขปการศึกษา
การปฏิบัติการร่วม (Joint Operations)
เป็นการปฏิบัติการทางทหารที่ใช้กำลังหลักของชาติเดียวกันตั้งแต่สองเหล่าทัพขึ้นไป
เพื่อให้บรรลุภารกิจเดียวกันภายใต้การบังคับบัญชาทางยุทธการ (Operational Command) หรือการควบคุมทางยุทธการ (Operation Control) ของผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว
หลักการของการปฏิบัติการร่วม มีอยู่ ๔ ประการ คือ
๓.๑
สนธิขีดความสามารถของต่างเหล่าทัพเข้าด้วยกัน (Integration of Forces)
เป็นการผสมผสานคุณลักษณะและขีดความสามารถที่แตกต่างกันของสามเหล่าทัพเพื่อดำเนินการต่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ให้เกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด
๓.๒ เอกภาพในการบังคับบัญชา (Unity of Command)
การปฏิบัติการร่วมจำเป็นต้องมีผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียวที่จะสั่งใช้กำลังที่รับมอบจากสามเหล่าทัพ
ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยกำลังดังกล่าวสามารถปฏิบัติงานไปในทางที่จะรวมกำลังกัน (Unified Efforts)
๓.๓
มุ่งปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ (Objectivity) ผู้บังคับบัญชาที่ได้รับมอบกำลังจากเหล่าทัพต่างๆ มานั้น
ควรรับผิดชอบในการทุ่มเทความสามารถของหน่วยไปในการปฏิบัติให้บรรลุภารกิจ
โดยไม่ต้องคำนึงถึงการทำหน้าที่ทางธุรการ เช่น การจัดหากำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์
และการส่งกำลังบำรุงซึ่งเป็นงานของหน่วยสนับสนุน
๓.๔
ผู้บังคับบัญชาต้องมีฝ่ายอำนวยการร่วม (Joint Staff)
ที่ต่างเหล่าทัพส่งมาให้ช่วยเหลือในการใช้กำลังให้ถูกต้องตามหลักนิยมของแต่ละเหล่าทัพ
โดยมีจำนวนฝ่ายอำนวยการของเหล่าทัพ ตลอดจนตำแหน่งหน้าที่ที่ได้สัดส่วนกับปริมาณและความสำคัญของหน่วยกำลังแต่ละเหล่าทัพในการปฏิบัติการร่วมนั้นๆ
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นหลักของการปฏิบัติการร่วม
ที่จำเป็นต้องมีการดำเนินกระบวนการวางแผนร่วม
หมายถึงการประสานงานของฝ่ายเสนาธิการร่วมที่ผู้บังคับบัญชาใช้เพื่อพิจารณาหาหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
เพื่อให้สำเร็จกิจเฉพาะที่ได้รับมอบและการสั่งการปฏิบัติที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุภารกิจ
การวางแผนร่วมมีอยู่ ๒ ลักษณะ คือ การวางแผนอย่างประณีต (Deliberate or Peacetime Planning) ซึ่งเป็นการวางแผนร่วมในยามปกติ เช่น
แผนป้องกันประเทศ ซึ่งอาจใช้ระยะเวลายาวนานนับปี และการวางแผนเร่งด่วน (Time Sensitive or Crisis Action Planning) ซึ่งเป็นการวางแผนสำหรับสถานการณ์วิกฤติ
ที่ต้องการความรวดเร็วในการวางแผน
แนวความคิดของ บก.กองทัพไทย ในการปฏิบัติการร่วมนั้น
บก.กองทัพไทยจะทำหน้าที่หน่วยบัญชาการร่วม (กองบัญชาการที่ควบคุมกำลังตั้งแต่สองเหล่าทัพขึ้นไป
ให้มาปฏิบัติภารกิจใดภารกิจหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ผู้บังคับบัญชาคนเดียว)
ผบ.เหล่าทัพหรือผู้บังคับบัญชาระดับรองจาก ผบ.เหล่าทัพ อาจได้รับการแต่งตั้งเป็น
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวมรอง หรือผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจร่วมอีกตำแหน่งหนึ่งตามความเหมาะสม
๔. วิธีดำเนินการศึกษา
๔.๑ บรรยายในห้องเรียน ๓ ชั่วโมง
๕. ประเด็นคำถามสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาที่ศึกษา
๖. เอกสารประกอบการศึกษา
๖.๑ เอกสารของผู้บรรยาย
หรือตามที่ผู้บรรยายกำหนด
๖.๒ หลักนิยมการรบร่วม, พ.ศ.๒๕๔๐
๗. เอกสารอ่านประกอบเพิ่มเติม
๗.๑ นิวัติ บูรณะกุล, พ.อ.,
การยุทธร่วม/ผสม, ๒๕๓๑
๗.๒ หลักนิยมพื้นฐานของการรบอากาศพื้นดิน,
๒๕๓๕
๗.๓ หลักนิยมกองทัพไทยด้านยุทธการ, ๒๕๔๒